วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การแบ่งเซลล์

การแบ่งเซลล์



            การแบ่งเซลล์จำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิต เพราะสิ่งมีชีวิตสามารถดำรงเผ่าพันธุ์ได้ โดยไม่เกิดการสูญพันธุ์เพราะมีคุณสมบัติในการแบ่งเซลล์เพื่อการเจริญเติบโต สร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าที่    เสียหาย และการสืบพันธุ์ให้ลูกหลาน การแบ่งเซลล์ประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คือการแบ่งนิวเคลียส (nuclear division หรือ karyokinesis) และการแบ่งไซโทพลาสซึม (cytoplasmic division หรือ cytokinesis) 
การแบ่งตัวของนิวเคลียสมีอยู่ 2 แบบ คือการแบ่งตัวแบบไมโทซิส (Mitosis) และการแบ่งตัวแบบ     ไมโอซิส(Meiosis)

การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส (Mitosis) 
        การแบ่งแบบไมโทซิส เป็นการแบ่งเซลล์ร่างกาย (somatic cell) ทำให้เซลล์ร่างการเพิ่มจำนวนขึ้น จากเซลล์เริ่มต้น 1 เซลล์ แบ่งหนึ่งครั้งเดียวได้ 2เซลล์ใหม่  ซึ่งทำให้สิ่งมีชีวิตมีการเจริญเติบโต การแบ่งตัวของเซลล์วิธีนี้แบ่งออกได้ 5 ระยะ ดังนี้

1. ระยะอินเตอร์เฟส (Interphase)
-เพิ่มจำนวนโครโมโซม(Duplication) ขึ้นมาอีก 1ชุดและติดกันอยู่ที่เซนโทรเมียร์ (1 โครโมโซม      มี 2  โครมาทิด)
-เซนตริโอ แบ่งเป็น 2 อัน

รูปแสดงการแบ่งเซลล์ในระยะอินเตอร์เฟส (Interphase)
ระยะอินเตอร์เฟส (Interphase)


2.ระยะโพรเฟส (Prophase)
-โครมาทิดหดสั้น เป็นแท่ง
-เยื่อหุ้มนิวเคลียสและนิวคลีโอลัสหายไป
-เซนตริโอเลื่อนไป 2 ข้าง
-สปินเดิลไปเกาะที่เซนโทรเมียร์

ระยะโพรเฟส (Prophase)


ระยะโพรเฟส (Prophase)



3.ระยะเมทาเฟส (Metaphase)
-โครโมโซมเคลื่อนที่เข้ามาอยู่ตรงกลาง

ระยะเมทาเฟส (Metaphase)


4.ระยะแอนาเฟส (Anaphase)
-โครมาทิดถูกดึงแยกออกจากกัน
-โครโมโซมภานในเพิ่มเป็น 2 เท่า หรือจาก 2n เป็น 4n


ระยะแอนาเฟส (Anaphase)


5.ระยะเทโลเฟส (Telophase)
-เยื่อหุ้มนิวเคลียสและนิวคลีโอลัสเริ่มปรากฏ
-มีการแบ่งไซโทรพลาสซึม เซลล์สัตว์ เยื่อหุ้มเซลล์คอดเข้าไป บริเวณกลางเซลล์ เซลล์พืชเกิดเซลล์เพลท (cell plate) กั้นแนวกลางเซลล์ขยายออกไปติดกับผนังเซลล์เดิม
-ได้ 2 เซลล์ใหม่ เซลล์ละ 2n เหมือนเดิมทุกประการ


ระยะเทโลเฟส (Telophase)


ระยะเทโลเฟส (Telophase)



การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส (Meiosis)
       การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส เป็นการเเบ่งเซลล์เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์ (gamete) ของสิ่งมีชีวิตที่มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ผลที่เกิดขึ้นคือได้ ออวุล (ovule) และละอองเรณู (pollen grain) ในพืชและได้ไข่ (egg) และเสปิร์ม (sperm) ในสัตว์  การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสมี 2 ขั้นตอน  คือ     
ไมโอซิส I (Meiosis - I) และ ไมโอซิส II (Meiosis - II)  

ไมโอซิส I (Meiosis - I)
          ไมโอซิส I (Meiosis - I) หรือ Reductional division ขั้นตอนนี้จะมีการแยก homologous chromosome ออกจากกันมี 5 ระยะย่อย คือ

1. ระยะอินเตอร์เฟส I  Interphase- I
-จำลองโครโมโซมขึ้นมาอีก 1 เท่าตัว แต่ละโครโมโซมประกอบด้วย 2 โครมาทิด


ระยะอินเตอร์เฟส I (Interphase)


2.ระยะโพรเฟส I (Prophase)
-โฮโมโลกัสโครโมโซมเข้าคู่กันทำให้มีกลุ่มโครโมโซมกลุ่มละ 2 ท่อน ( bivalent) แต่ละกลุ่ม ประกอบด้วย 4 โครมาทิด( tetrad) และเกิดการแลกเปลี่ยน ชิ้นส่วนของโครมาทิด         (crossing over)
ระยะโพรเพส I ที่ส่องจากกล้องจุลทรรศน์


ระยะโพรเฟส I (Prophase I)


3.ระยะเมทาเฟส I (Metaphase I)

-คู่ของโฮโมโลกัสโครโมโซม เรียงตัวอยู่ตามแนวศูนย์กลางของเซลล์

ระยะเมทาเฟส I จากกล้องจุลทรรศน์


ระยะเมทาเฟส I (Metaphase I)


4.ระยะแอนาเฟส I (Anaphase I)
-โฮโมโลกัสโครโมโซม แยกคู่ออกจากกันไปยังแต่ละข้างของขั้วเซลล์


ระยะแอนาเฟส I (Anaphase I)


5.ระยะเทโลเฟส I (Telophase I)

-เกิดนิวเคลียสใหม่ 2 นิวเคลียส แต่ละนิวเคลียสมีจำนวนโครโมโซม เป็นแฮพลอยด์ (n)

ระยะเทโลเฟส I จากกล้องจุลทรรศน์

ระยะเทโลเฟส I (Telophase I)


6.ระยะอินเตอร์เฟส II (Interphase II)

-เป็นระยะพักชั่วครู่แต่ไม่มีการจำลองโครโมโซมขึ้นมาอีก


7.ระยะโพรเฟส II (Prophase II)
-โครโมโซมหดสั้นมากทำให้เห็นแต่ละโครโมโซม มี 2 โครมาทิด


ระยะโพรเฟส II (Prophase II)



8.ระยะเมทาเฟส II (Metaphase II)

-โครโมโซมจะมาเรียงตัว อยู่แนวศูนย์กลางของเซลล์


ระยะเมทาเฟส II (Metaphase II)


9.ระยะแอนาเฟส II (Anaphase II)
-เกิดการแยกของโครมาทิด ที่อยู่ในโครโมโซมเดียวกันไปยังขั้วแต่ละข้างของเซลล์ ทำให้โครโมโซม เพิ่มจาก n เป็น 2n


ระยะแอนาเฟส II (Anaphase II)


10.ระยะเทโลเฟส II (Telophase II)
-เกิดนิวเคลียสใหม่เป็น 4 นิวเคลียส และแบ่งไซโทพลาสซึม เกิดเป็น 4 เซลล์ สมบูรณ์ แต่ละเซลล์มีจำนวนโครโมโซม เป็นแฮพลอยด์ (n) หรือ เท่ากับครึ่งหนึ่ง ของเซลล์เริ่มต้น


ระยะเทโลเฟส II (Telophase II)












ที่มาของเนื้อหาประกอบและรูป :หนังสือชีววิทยา 1 และ   http://www.baanjomyut.com/library_2/extension-2/cells_and_cell_division/03.html